عَنْ عُثْمَانَ بْنِ عَفَّانَ رضي الله عنه قَالَ : قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : ((مَنْ تَوَضَّأَ فَأَحْسَنَ الْوُضُوءَ خَرَجَتْ خَطَايَاهُ مِنْ جَسَدِهِ حَتَّى تَخْرُجَ مِنْ تَحْتِ أَظْفَارِهِ))
رواه مسلم
เล่าจากท่านอุษมาน อิบนิ์ อัฟฟาน ร่อฎิยั่ลลอฮู่อันฮู่ กล่าวว่า ท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺ ศ๊อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่วะซั่ลลัม กล่าวว่า “ผู้ใดก็ตามอาบน้ำละหมาดและเขาได้อาบน้ำละหมาดนั้นอย่างสวยงาม แน่นอนบาปต่าง ๆ ของเขาย่อมหลุดร่วงจากร่างกายของเขา จนกระทั่งบาปนั้นจะหลุดร่วงจากซอกเล็บของเขา” บันทึกโดยมุสลิม رواه مسلم
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رضي الله عنه أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ : ((وَيْلٌ لِلْأَعْقَابِ مِنْ النَّارِ)) رواه الترمذيُّ
เล่าจากท่านอบีฮู่รอยเราะฮฺ ร่อฎิยั่ลลอฮู่อันฮู่ จากท่านนบี ศ๊อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่วะซั่ลลัม กล่าวว่า “ความวิบัติจากไฟนรกย่อมประสบแด่เจ้าของส้นเท้า (เมื่ออาบน้ำละหมาด และล้างเท้าไม่เกลี้ยง)” บันทึกโดยอัตติรฺมิซีย์فَضاَئِلُ الْوُضُوْءِคุณค่าของการอาบน้ำละหมาด
1. น้ำละหมาดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การละหมาดใช้ได้สมบูรณ์ (จากบันทึกของอัลบุคอรี มุสลิม และอัตติรฺมิซีย์)2. น้ำละหมาดช่วยทำให้ส่วนที่ถูกล้าง ถูกอาบ มีความสะอาดพ้นจากบาปกรรมเล็ก ๆ ในส่วนนั้น (จากบันทึกของ มาลิก มุสลิม และอัตติรฺมิซีย์)
3. น้ำละหมาดคือเครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์อันแสดงถึงการเป็นประชาชาติของ
ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในวันฟื้นคืนชีพ (วันกิยามะฮฺ)
فَرَائِضُ الْوُضُوْءِ سِتَّةٌ
สิ่งจำเป็น (ฟัรฺดู) ต้องปฏิบัติในการอาบน้ำละหมาดมี 6 ประการ คือ
สิ่งจำเป็น (ฟัรฺดู) ต้องปฏิบัติในการอาบน้ำละหมาดมี 6 ประการ คือ
1. การตั้งเจตนา (เนียต)
เพราะการอาบน้ำละหมาดนั้นเป็นอิบาดะฮฺอย่างหนึ่ง กล่าวคือ อิบาดะฮฺจะใช้ไม่ได้ และไม่นับว่าเป็นอิบาดะฮฺตามหลักศาสนา เว้นแต่เมื่อมีการตั้งเจตนาเท่านั้น
ประเด็นสำคัญ เวลาของการตั้งเจตนา (เนียต) คือ ขณะเมื่อน้ำถูกส่วนหนึ่งส่วนใดของใบหน้า เพราะการล้างหน้าคือการเริ่มต้นของการอาบน้ำละหมาด
2. ล้างใบหน้าให้ทั่ว
ขอบเขตของใบหน้าตามยาวคือ ตั้งแต่โคนผมด้านหน้าจนถึงใต้คาง และขอบเขตของใบหน้าตามกว้างคือ ตั้งแต่หูด้านหนึ่งจนถึงหูอีกด้านหนึ่ง
ประเด็นสำคัญ จำเป็นต้องล้างอวัยวะทุกส่วนที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า เช่น ขนคิ้ว หนวดและเครา ทั้งภายนอกและภายใน เพราะสิ่งเหล่านี้ถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของใบหน้า
ยกเว้นเคราที่หนามาก (ซึ่งคู่สนทนาไม่สามารถมองเห็นผิวหนังที่อยู่ใต้เครา) ในกรณีเช่นนี้ การล้างเคราแต่เพียงภายนอกก็ถือว่าเพียงพอแล้ว โดยไม่ต้องล้างให้ถึงภายใน
3. ล้างมือทั้งสองข้างจนถึงข้อศอก จำเป็นต้องล้างให้ทั่วเส้นขนและผิวหนัง
ประเด็นสำคัญ ถ้าหากใต้เล็บมีสิ่งสกปรกที่กันไม่ให้น้ำเข้าไปถึงภายในหรือสวมแหวนที่กันไม่ให้น้ำเข้าไปถึงผิวหนังที่อยู่ใต้แหวน การอาบน้ำละหมาดนั้นถือว่าใช้ไม่ได้
4. เช็ดบางส่วนของศีรษะ
มีหะดีษเล่าจากอัลมุฆีเราะฮฺ บุตรของชั๊วะอฺบะฮฺ ได้รายงานว่า
“ท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺ ศ๊อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่วะซั่ลลัม ได้อาบน้ำละหมาดและได้เช็ดขม่อม (นาศิยะฮฺ) ของท่าน และเช็ดบนผ้าโพกศีรษะของท่าน” รายงานโดยมุสลิม
ประเด็นสำคัญ การล้างหรือเช็ดทั้งหมดของศีรษะนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้
5. ล้างเท้าทั้งสองข้างจนถึงตาตุ่ม กล่าวคือ ล้างเท้าพร้อมทั้งล้างตาตุ่มด้วย
ประเด็นสำคัญ จำเป็นต้องล้างให้ทั่วเท้าทั้งสองข้าง ตลอดจนรอยแตกและซอกต่าง ๆ ที่เล็บหรือแม้แต่ใต้ขนก็ตาม
6. เรียบเรียงตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ การอาบน้ำละหมาดโดยไม่เรียบเรียงตามลำดับนั้น ถือว่าใช้ไม่ได้
سُنَنُ الوُضُوْءِ إِحدَى عَشَرَสุนัตของการอาบน้ำละหมาด มี 11 ประการ
1. ให้อ่าน “บิสมิ่ลลาฮิรฺเราะห์มานิรฺร่อฮีม” ขณะเมื่อเริ่มอาบน้ำละหมาด เมื่อล้างมือ2. ล้างฝ่ามือทั้งสอง จนถึงข้อมือทั้งสอง
3. เอาน้ำบ้วนปากให้สะอาด
4. สูดน้ำเข้าจมูกหลังจากบ้วนปาก แล้วสั่งออก
5. เอาน้ำเช็ดให้ทั่วศีรษะ
6. เอาน้ำเช็ดใบหูทั้งสองให้ทั่วทั้งภายนอกและภายใน
7. ให้สางเคราที่หนาโดยวิธีเสยขึ้น
8. ให้สางนิ้วมือทั้งสอง โดยเอามือซ้ายทับลงบนหลังมือขวา แล้วเอานิ้วมือซ้ายสางในซอกนิ้วหลังมือขวา แล้วสลับกัน และสางนิ้วเท้าทั้งสองโดยเอานิ้วก้อยมือซ้ายสอดเข้าช่องนิ้วก้อยเท้าขวา แล้วดึงขึ้นเรียงตามลำดับจนถึงช่องนิ้วก้อยเท้าซ้าย
9. ให้กระทำข้างขวาก่อนข้างซ้าย
10. ให้ทำหน่วยละ 3 ครั้ง ในส่วนที่ล้างและเช็ด
11. ให้ทำโดยมีระยะต่อเนื่องกัน ไม่จากกันนานเกินสมควร
ماَ يُسَنُّ بَعْدَ الْوُضُوْءِ
ข้อควรปฏิบัติหลังจากอาบน้ำละหมาด
เมื่ออาบน้ำละหมาดเสร็จแล้ว ให้ผินหน้าไปทางกิบละฮฺ และขอดุอาอฺดังต่อไปนี้ข้อควรปฏิบัติหลังจากอาบน้ำละหมาด
أَشْهَدُ أَنْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللهُ وَحْدَهُ لاَ شَرِيْكَ لَهُ ، وَأَشْهَدُ أَنَّ مُحَمَّدًا عَبْدُهُ وَرَسُوْلُهُ
اَللّهُمَّ اجْعَلْنِيْ مِنَ التَّوَّابِيْنَ وَاجْعَلْنِيْ مِنَ الْمُتَطَهِّرِيْنَ وَاجْعَلْنِيْ مِنْ عِبَادِكَ الصَّالِحِيْنَ
“ข้าพเจ้าปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากอัลลอฮฺเท่านั้นที่ปราศจากภาคี และข้าพเจ้าขอปฏิญาณตนว่าท่านนบีมู่ฮำมัดเป็นบ่าวและศาสนทูตของพระองค์ โอ้อัลลอฮฺ โปรดให้ข้าพระองค์อยู่ในจำนวนผู้สำนึกผิด และโปรดกรุณาให้ข้าพระองค์อยู่ในจำนวนผู้สะอาดบริสุทธิ์ และโปรดให้ข้าพระองค์อยู่ในจำนวนบ่าวผู้ประพฤติดีของพระองค์ด้วยเถิด”اَللّهُمَّ اجْعَلْنِيْ مِنَ التَّوَّابِيْنَ وَاجْعَلْنِيْ مِنَ الْمُتَطَهِّرِيْنَ وَاجْعَلْنِيْ مِنْ عِبَادِكَ الصَّالِحِيْنَ
(مَكْرُوْهَاتُ الْوُضُوْءِ)
การกระทำที่น่ารังเกียจ (มักโระฮฺ) ในการอาบน้ำละหมาด
การกระทำที่น่ารังเกียจ (มักโระฮฺ) ในการอาบน้ำละหมาดมีหลายประการ ได้แก่การกระทำที่น่ารังเกียจ (มักโระฮฺ) ในการอาบน้ำละหมาด
1. ใช้น้ำมากหรือน้อยเกินไป
2. กระทำข้างซ้ายก่อนข้างขวา
3. การซับหรือเช็ดน้ำที่ติดอยู่กับอวัยวะส่วนที่อาบน้ำละหมาดให้แห้ง นอกจากจำเป็น
4. สาดน้ำใส่หน้า เพราะถือเป็นการไม่ให้เกียรติ
5. ทำเกินกว่าสามครั้งหรือน้อยกว่าสามครั้ง
6. ขอให้ผู้อื่นช่วยล้างอวัยวะให้ตนโดยไม่มีเหตุอันควร
7. บ้วนปากและสูดน้ำเข้าจมูกลึกเกินไปสำหรับผู้ที่ถือศีลอด
(نَوَاقِضُ الْوُضُوْءِ خَمْسَةٌ)เหตุที่ทำให้เสียน้ำละหมาดมี 5 ประการ
1. มีสิ่งใด ๆ ออกมาจากทวารหนักหรือทวารเบา2. หลับโดยก้นไม่แนบชิดกับพื้น
3. หมดสติด้วยเหตุมึนเมา เจ็บป่วย เป็นลมหรือเป็นบ้า
4. กระทบกันระหว่างชายหญิงในส่วนที่เป็นผิวหนังโดยไม่มีของกั้น ซึ่งชายหญิงนั้นศาสนายอมให้แต่งงาน (นิกาฮฺ) กันได้ และมีความรู้สึกทางเพศแล้วทั้งคู่
5. กระทบทวารหนักหรือทวารเบาของตนเองหรือของผู้อื่น ทั้งของคนเป็นหรือของคนตาย จะติดอยู่ที่ร่างกายหรือหลุดออกไปแล้วก็ตาม ด้วยฝ่ามือโดยปราศจากของกั้น
ข้อควรจำ
ส่วนการกระทบที่ไม่เป็นสาเหตุให้เสียน้ำละหมาด คือการกระทบกันของผู้ที่ศาสนาห้าม(หะรอม) มิให้นิกาฮฺ ซึ่งได้แก่
1. พ่อแม่ ลูกของลูก ถัดขึ้นไป หรือถัดลงไป
2. พี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน หรือร่วมพ่อ หรือร่วมแม่เดียวกัน
3. ลูกของพี่น้องชายหญิง
4. พี่น้องของพ่อหรือของแม่
5. แม่ของภรรยากับลูกเขย พ่อของสามีกับลูกสะใภ้
6. ลูกติดภรรยา หรือลูกติดสามี
7. ผู้ที่ดื่มน้ำนมร่วมกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น